
ระวังเสื่อมคาเลือกตั้ง
ใบตองแห้ง
เห็นคลิปลุงพายบกที่ชัยภูมิ แพร่โลกออนไลน์เป็นไวรัล ชาวเน็ตหัวเราะสนั่นหวั่นไหว น่ารักจัง สมดังคำกล่าวของ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ “ผมไม่เคยเห็นนายกฯ อะไรตลกขนาดนี้”
“ลุงตู่เป็นคนตลก” คือความสำเร็จ (?) ที่สร้างมาสี่ปี โลกใบนี้ไม่เคยมีผู้นำเผด็จการเป็นคนตลก นอกจากชาร์ลี แชปลิน ลุงเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารที่ตลกที่สุด โดยไม่ต้องตั้งใจ ถ้ามีใครรวมคลิปเด็ดออกมาขาย เอาเฉพาะที่หัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล ก็รวมได้หลายชั่วโมง
“ลุงตู่เป็นคนตลก” แม้จู้จี้ขี้บ่น หงุดหงิด ขี้โมโห ด่าสื่อ ด่าโน่นด่านี่ เมื่อไม่ได้ดังใจ แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ครื้นเครง ในความรู้สึกของคนนิยม ลุงเหมือนญาติผู้ใหญ่ หรือครูใหญ่ ยืนบ่นหน้าเสาธง ไม่มีใครฟัง แต่เอาเหอะ ลุงหวังดี ถึงพูดจาตกยุค หรือแนะนำอะไรไม่เข้าท่า ลุงก็ตั้งใจดี ที่หงุดหงิดอยู่เรื่อย ก็เพราะลุงไม่อยากมีอำนาจ แต่จำใจต้องเข้ามา
ลุงตลกก็เลยเป็นเสาหลัก ของระบอบนี้ ซึ่งไม่เหลือความศักดิ์สิทธิ์อะไร ไม่เหลือกฎหมาย หลักเกณฑ์ กติกา ไม่มีตรรกะ ได้แต่พึ่งลุงตลกใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเอาใจกระแส
ลุงไม่ใช่ผู้นำที่สังคมต้องการ แต่สังคมถูกบังคับให้ยอมรับ ระหว่างมองไม่เห็นทางเลือกที่ดีกว่า หรืออย่างน้อยก็รู้สึกไม่คุ้มค่า ถ้าจะลุกฮือไล่ลุง ไปหาสิ่งใหม่ที่ไม่เห็นชัด
แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เมื่อเข้าสู่เลือกตั้ง ซึ่งสังคมมีโอกาสเปลี่ยนผู้นำโดยสันติ แม้ดูดีๆ ลุงยังได้เปรียบ ด้วยกลไกรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่ยอมให้สืบทอดอำนาจ ฝั่งตรงข้ามชนะ ก็จะขัดแย้งกับส.ว.แต่งตั้ง กรรมการยุทธศาสตร์ชาติ องค์กรอิสระ ที่วางกับดักไว้
กระนั้น ก็ยังมีโอกาสผันแปรเป็นอื่น ทั้งจากชนชั้นนำไม่ปลื้ม หรือไม่ก็ลุงนั่นแหละ กดปุ่มทำลายตัวเองระหว่างเลือกตั้ง
อย่าลืมว่าสังคมไทยไม่ได้เลือกตั้งมานานเกือบ 8 ปี อยากเห็นการเลือกตั้งเสรี เปิดกว้าง มีพรรคการเมืองหลากหลายมาประชัน แล้วแข่งขันแฟร์ๆ ตามกฎกติกา ในยุคที่โลกใช้ VAR กันหมดแล้ว อย่าทำให้คนรู้สึกว่า เอาเปรียบกันแบบ “น่าเกลียด”
คือคนจำนวนมากอาจยอมรับได้ ถ้าชนะแล้วสืบทอดอำนาจ แต่อาจยอมรับไม่ได้ ถ้ารู้สึกว่าชนะด้วยวิธีน่าเกลียด
โดยเฉพาะขั้นตอนต่อไป ที่เป็นก้าวย่างสำคัญ หลังจากสี่รัฐมนตรีตั้งพรรคพลังประชารัฐ ดูดอดีตส.ส.ที่คนชั้นกลาง ร้องยี้ แล้วประกาศจะเสนอลุงเป็นแคนดิเดต ซึ่งลุงก็แบะท่าว่าสนใจ
ที่จริงไม่ต้องเล่นท่ายาก ชาวบ้านเห็นลิ้นไก่ตั้งแต่ยังไม่อ้าปาก
สี่รัฐมนตรีตั้งพรรคขัดกฎหมายไหม ก็ไม่ขัดหรอก แต่รู้จักคำว่าน่าเกลียดไหม รัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาลกำหนดให้ สนช. รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ถ้าจะสมัครส.ส. ต้องลาออกใน 90 วัน นี่พวกท่านไม่ลาออก เพราะไม่สมัครส.ส. แต่มาเป็นหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค ส่งคนอื่นสมัคร ส.ส. กำปั้นทุบศรีธนญชัย ไม่ผิดกฎหมาย แต่ถามว่าน่าเกลียดไหม
เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญคืออะไร คือถ้าคุณจะเล่นการเมืองต้องสละอำนาจใน 90 วัน เพราะนี่เป็นอำนาจพิเศษ ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการเหมือนปกติ
แล้วลุงล่ะ ลุงเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ซึ่งมี ม.44 เหนือ กกต.จนหลังเลือกตั้ง ถ้าจะเป็นแคนดิเดตโดยไม่ต้องลาออก ไม่ต้องสมัครสมาชิกพรรค ยังมีอำนาจออกนโยบาย ช่วยคนจน ผู้สูงอายุ สวนยาง สวนปาล์ม แจกของขวัญปีใหม่ยันตรุษจีน ออกเยี่ยมประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ที่มาต้อนรับครั้งละหลายหมื่นคน โดยมิได้นัดหมาย
ถามว่าขัดกฎหมายไหม ไม่ขัดหรอก แต่จริยธรรมความเป็นไทยยอมรับได้ใช่ไหม
แค่ ม.44 ไปยุ่งเกี่ยวกับการแบ่งเขต ก็ถูกวิพากษ์อื้ออึง “อัปลักษณ์” จนโต้กลับ “ซังกะบ๊วย”
ซึ่งชักไม่ตลก เพราะภาพลุงเริ่มเปลี่ยนไป ลุงไม่อยากมีอำนาจแต่จำใจ? ตอนนี้ยังใช่หรือเปล่า ใกล้เลือกตั้งลุงทำอะไรให้ดูก็ได้? พายบก โล้ชิงช้า นี่เป็นธรรมชาติหรือว่าหาเสียงแบบนักการเมือง
ที่คิดกันว่าจะเลียนแบบป๋าเปรม ยุคป๋าก็ไม่ใช่อย่างนี้นะครับ ป๋าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพรรคไหน ปล่อยให้แข่งขันกันเอง แข่งเสร็จก็ไปเชิญป่ามาเป็นนายกฯ
อย่ามัวหลงเชื่อเฟกนิวส์ เฟกโพล สื่อสอพลอ จนคิดว่าสังคมเห็นดีเห็นงาม วันใดก็ตามที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อ วันนั้นลุงจะติดกับดัก ไม่เสียสัตย์หรอกแต่อาจจะเสียลุงตอนแก่
ถ้าเกิดอะไรพลาดพลั้ง กระแสสังคม พรรคการเมือง (ไม่เว้นแม้แมลงสาบ) อาจฮือขึ้นมาเรียกร้องให้ลุงลาออก แต่ก็จะออกไม่ได้ ติดกับ คล้ายยุคทักษิณยิ่งลักษณ์นั่นแล
10 ความคิดเห็น
เลือกตั้ง 2562 : เช็คชื่อคนการเมืองตกที่นั่ง “จำเลย-ผู้ต้องหา” ก่อน คสช. ปลดล็อกการเมือง – BBCไทย
การประชุมร่วมระหว่าง คสช. กับพรรคการเมืองน่าจะได้ข้อสรุปเรื่องวัน-เวลาในการ “ปลดล็อก” ทางการเมือง แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น บีบีซีไทยตรวจสอบพบว่ามีนักการเมืองอย่างน้อย 29 คนต้องตกที่นั่ง “จำเลย” และ”ผู้ต้องหา” จากการแสดงความคิดเห็น/เคลื่อนไหวทางการเมืองตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นัดประชุมร่วมกับพรรคการเมืองในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ เพื่อชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองในช่วงนับถอยหลังสู่การเลือกตั้งปี 2562
วงหารือนี้จะเกิดขึ้นที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธาน นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากส่วนอื่น ๆ ราว 280 คนเข้าร่วม ประกอบด้วย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), คณะรัฐมนตรี (ครม.), คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตัวแทนพรรคการเมืองพรรคละ 2 คน ซึ่งเป็นไปตามคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ในข้อ 8 ที่กำหนดให้ คสช. หารือกับผู้เกี่ยวข้องถึงความพร้อมในการกำหนดวันเลือกตั้งที่แน่ชัด
หนึ่งในสาระสำคัญที่คาดว่าจะมีการหารือและทำให้เกิดความชัดเจนคือ การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศ คำสั่งอันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง หรือที่เรียกกันว่า “ปลดล็อก” ทางการเมือง
ตามปฏิทินที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยเปิดเผยต่อสาธารณะก่อนหน้านี้ระบุว่าการปลดล็อกการเมืองจะเกิดขึ้นหลังมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่ใช่เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค. นี้
สำหรับ “กฎเหล็ก” ของ คสช. ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองต่าง ๆ นับจากรัฐประหารปี 2557 มีอย่างน้อย 2 ฉบับคือ ประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 ห้ามมิให้พรรคประชุม/ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 ห้ามมิให้ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
บีบีซีไทยได้ตรวจสอบรายชื่อนักการเมืองและว่าที่นักการเมืองที่ถูกดำเนินคดีเพราะฝ่าฝืน “กฎเหล็ก” ของ คสช. ตลอดเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในระยะหลังพบว่าฝ่ายกฎหมายของ คสช. มักนำกฎหมายอื่นที่มีอัตราโทษสูงกว่ามาดำเนินคดีร่วมด้วย โดยแจ้งข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และข้อหาฝ่าฝืนมาตรา 14 ของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
บีบีซีไทยพบว่า มีนักการเมืองอย่างน้อย 29 คน จาก 5 พรรคการเมือง ที่มีสถานะ “จำเลย” หรือ “ผู้ต้องหา” หรือ “ผู้ถูกกล่าวหา” โดยมาจากพรรคเพื่อไทย 9 คน, พรรคเพื่อชาติ 8 คน, พรรคไทยรักษาชาติ 6 คน, พรรคอนาคตใหม่ 5 คน และพรรคเกียน 1 คน อย่างไรก็ตามไม่มีรายชื่อนักการเมืองในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการเมือง แม้ก่อนหน้านี้จะมีเสียงวิจารณ์หนาหูเกี่ยวกับปรากฏการณ์ “ดูด ส.ส.” เข้าสังกัด พปชร. ว่าเกี่ยวพันกับการ “ปลดคดีความ” ก็ตาม บีบีซีไทยเข้าใจว่าเสียงวิจารณ์ดังกล่าวหมายถึงคดีความในประเภทอื่น ๆ
พรรคเพื่อไทย 8 คน
พรรคไทยรักษาชาติ 6 คน
พรรคเพื่อชาติ 8 คน
พรรคอนาคตใหม่ 5 คน
พรรคเกียน 1 คน
ที่มา : บีบีซีไทย, ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์)
ไอ่ตูบ
ครับ...
น่ารัก และน่าชัง พร้อมน่าถีบครับ
สติมันไม่ค่อยดีนะ ไปหมดแล้วละสมงสมอง
ผมก็ไม่เคยเห็นนายกไทยที่อร่อยแบบนี้เลยนะ
ผมชอบเวลาแม่งฉุนนักข่าวเวลาของมันขึ้นนะ ไอ่อ้วนอีกตัวนะ
ไม่เชื่อลองสังเกตุดูสิ อร่อยดี
ประเทศกูมี นายพลปัญญาอ่อนอาสามาเป็นผู้นำ.. รวยกระจุกจนกระจายอันดับหนึ่งของโลกแซงอินเดีย.. เชี่ยจริงๆ
ประเทศกูมี นายพลปัญญาอ่อนอาสามาเป็นผู้นำ.. รวยกระจุกจนกระจายอันดับหนึ่งของโลกแซงอินเดีย.. เชี่ยจริงๆ
ในบอร์ดนี้ก็มีคนแบบไอ้ตู่คนนึงคล้ายๆกัน น้ามาร์คฯก็คงรู้ว่าใคร?
เลือกตั้งเสร็จแล้ว
ไอ้ตู่จะตลกกว่านี้อีก
เวรกรรม